เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในประเทศปากีสถาน พ.ศ. 2567
เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในประเทศปากีสถาน ค.ศ. 2024 | |
---|---|
ส่วนหนึ่งของ การก่อความไม่สงบในซีสถานและบาโลชิสถานและการปะทะกันที่ชายแดนปากีสถาน–อิหร่าน | |
ชนิด | การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน |
ตำแหน่ง | โคเอซับซ์ เขตพันจ์กูร์ แคว้นบาโลชิสถาน ปากีสถาน 27°10′N 64°16′E / 27.167°N 64.267°E |
โดย | อิหร่าน |
เป้าหมาย | ญัยชุลอัดล์ |
วันที่ | 16 มกราคม 2024 |
ผู้ลงมือ | กองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม |
ผู้สูญเสีย | 2 คน ถูกสังหาร 3–4 คน ได้รับบาดเจ็บ |
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 2024 อิหร่านได้โจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนหลายครั้งภายในแคว้นบาโลชิสถานของปากีสถาน โดยอ้างว่าได้กำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มญัยชุลอัดล์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในอิหร่าน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่อิหร่านเปิดฉากโจมตีทางอากาศและโดรนหลายครั้งที่คล้ายกันในอิรักและซีเรีย โดยอ้างว่าได้กำหนดเป้าหมายไปที่สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของหน่วยข่าวกรองอิสราเอลและฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายหลายแห่งเพื่อตอบโต้เหตุระเบิดในเคร์มอนเมื่อวันที่ 3 มกราคม ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลามอ้างความรับผิดชอบ รัฐบาลปากีสถานประณามการโจมตีดังกล่าวและระบุว่าอิหร่านได้สังหารเด็ก 2 คนและละเมิดน่านฟ้าปากีสถานโดยปราศจากการยั่วยุ
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ปากีสถานดำเนินการโจมตีทางอากาศตอบโต้ในจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานของอิหร่าน โดยอ้างว่าได้โจมตีที่ซ่อนของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนบาโลจซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับปากีสถาน รัฐบาลอิหร่านระบุว่าพลเมืองต่างชาติ 7 คน รวมถึงผู้หญิง 3 คนและเด็ก 4 คน ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศครั้งนี้
ภูมิหลัง[แก้]
การก่อความไม่สงบในซีสถานและบาโลชิสถาน[แก้]
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 เป็นต้นมา จังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่านได้พัวพันกับความขัดแย้งกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนบาโลจกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงกลุ่มญัยชุลอัดล์ด้วย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2023 การโจมตีของกลุ่มญัยชุลอัดล์ในเมืองรอสก์ของอิหร่านทำให้ตำรวจเสียชีวิต 11 นาย ตามรายงานของสื่ออิหร่าน และการโจมตีของกลุ่มนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้งใน ค.ศ. 2019 โดยคร่าชีวิตสมาชิกกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามไป 27 นาย
การโจมตีโดยขีปนาวุธในอิรักและซีเรีย[แก้]
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธในอิรักและซีเรีย โดยอ้างว่ามุ่งเป้าไปที่กลุ่มก่อการร้ายเพื่อตอบโต้เหตุระเบิดในเคร์มอนใน ค.ศ. 2024[1] เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่อันวาร์ อุล ฮัก กาการ์ นายกรัฐมนตรีรักษาการของปากีสถาน และโฮเซย์น แอมีร์แอบโดลลอฮียอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กำลังพบกันระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาโฟส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และในขณะที่กองทัพเรืออิหร่านและปากีสถานจัดการฝึกซ้อมร่วมกันในอ่าวเปอร์เซีย
การโจมตี[แก้]
สื่อโทรทัศน์แห่งรัฐอิหร่านกล่าวว่ากองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม[2] ได้ใช้ขีปนาวุธที่แม่นยำและการโจมตีด้วยโดรนเพื่อทำลายฐานที่มั่น 2 แห่งของกลุ่มญัยชุลอัดล์ในแคว้นบาโลชิสถานทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน การโจมตีมุ่งเป้าไปที่บ้านในหมู่บ้านโคเอซับซ์ในเขตพันจ์กูร์[3] จากชายแดนปากีสถาน–อิหร่าน ทางการปากีสถานกล่าวว่ามีเด็ก 2 คนเสียชีวิตจากการโจมตี และอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ[4] นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่ามีโดรนประมาณ 3 ถึง 4 ลำถูกปล่อยในพื้นที่ดังกล่าว โจมตีมัสยิด บ้าน และอาคารอื่น ๆ[2]
ผลสืบเนื่อง[แก้]
วันรุ่งขึ้นหลังจากการโจมตี พันเอก โฮเซย์น แอลี จอแวดอนแฟร์ ของกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม ถูกมือปืนนิรนามลอบสังหารในจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถาน[5][6] กลุ่มญัยชุลอัดล์ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวตามรายงานจากสื่ออิหร่าน[7]
การโจมตีของปากีสถานในอิหร่าน[แก้]
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ปากีสถานได้โจมตีทางทหารในอิหร่าน โดยอ้างว่ามุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธบาโลจ สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองแซรอวอนถูกโจมตี เจ้าหน้าที่อิหร่านอ้างว่ามีชาวต่างชาติเสียชีวิต 9 ราย รวมถึงผู้หญิง 3 คนและเด็ก 4 คน[8] กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานเรียกปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ว่าปฏิบัติการมาร์กบาร์ซาร์มาชาร์[9][10]
กลุ่มญัยชุลอัดล์อ้างว่าโดรนและจรวด 6 ลูกโจมตีที่อยู่อาศัย ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิต 2 คน และผู้หญิงบาดเจ็บ 3 คน รวมถึงวัยรุ่น 1 คน[2]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Malekian, Somayeh; Shalvey, Kevin (16 January 2024). "US condemns Iran for missile strikes in Iraq and Syria". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Ahmed, Munir; Gambrell, Jon (17 January 2024). "Pakistan condemns Iran over bombing allegedly targeting militants that killed 2 people". Associated Press. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ Shahid, Saleem (17 January 2024). "Iran 'attacks militant bases in Panjgur'". DAWN.COM (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ Hallam, Jonny; Khan, Asim; Regan, Helen (17 January 2024). "Pakistan condemns deadly Iranian missile strike on its territory as an 'unprovoked violation'". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ Hallam, Jonny; Kham, Asim; Regan, Helen (17 January 2024). "Pakistan condemns deadly Iranian missile strike on its territory as tensions spike across region". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2024.
- ↑ "IRGC colonel martyred in assassination move in SE Iran". Mehr. 17 January 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
- ↑ "جیش الظلم مسئولیت ترور شهید جاودانفر را برعهده گرفت" [Jaish al-Zalum took responsibility for the assassination of Shaheed Javadanfar] (ภาษาPersian). ISNA. 17 January 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2024. สืบค้นเมื่อ 17 January 2024.
{{cite news}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ Siddiqui, Usaid (18 January 2024). "Pakistan-Iran attacks live: At least 9 killed near Iran's southeast border". Al Jazeera. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2024. สืบค้นเมื่อ 18 January 2024.
- ↑ Farmer, Ben (18 January 2024). "Pakistan carries out strikes on militant groups inside Iran". The Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2024. สืบค้นเมื่อ 18 January 2024.
- ↑ "Operation Marg Bar Sarmachar". mofa.gov.pk. Ministry of Foreign Affairs. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2024. สืบค้นเมื่อ 18 January 2024.